Saturday, May 5, 2007

หอสมุดแห่งชาติ

หอสมุดแห่งชาติ

ผมเป็นคนแพ้อากาศร้อนครับ ไม่ใช่ลักษณะการแพ้แบบที่มีอาการผดผื่น หรืออาการคันแต่อย่างใด
แต่เป็นอาการที่ไม่สามารถตั้งสมาธิในอยู่กับสิ่งที่ทำ ณ ขณะนั้นได้เลย ดั่งคนมีสมาธิสั้น ทำสิ่งๆหนึ่งได้พักนึง แล้วก็ต้องเปลี่ยนไปทำอย่างอื่น และมีอาการเดินไปเดินมาเพื่อที่จะหาสิ่งใหม่ทำเสมอหลังจากที่จับสิ่งที่ทำก่อนหน้าได้ไม่นาน
สุดท้ายแล้ว ก็มางีบหลับโดยมีพัดลมเป่าตัวอยู่ข้างๆ (-_- ) zZZ

บ้านผมมีนโยบายอยู่ว่า ห้ามเปิดแอร์ตอนกลางวันครับ เพื่อเป็นการประหยัดไฟ ประหยัดค่าใช้จ่ายภายในบ้าน ดังนั้นช่วงหน้าร้อนอย่างนี้ ผมจึงมีอาการสมาธิสั้นทุกเสาร์ อาทิตย์ ที่ไม่ได้ไปทำงาน
ทนไม่ไหวครับ เมื่อเกิดอาการอย่างนี้ ผมรู้สึกว่าใจไม่สงบเอามากๆ จิตใจมันวุ่นวายอยู่ตลอด และด้วยความที่ผมไม่ใช่คนที่สามารถควบคุมสมาธิตัวเองได้เก่งถึงขนาดที่ไม่ยั่นกับทุกสภาวะอากาศ แม้ว่าจะปรารถนาจะทำได้ก็ตาม ดังนั้นเมื่อถึงเสาร์ อาทิตย์ ถ้าไม่จำเป็นต้องอยู่บ้านจริงๆ ผมมักจะหาสถานที่ๆอากาศเย็นๆ สงบๆ ไปสิงสถิตย์อยู่เสมอ และที่ๆนิยมฮอตฮิตของผมอยู่ตอนนี้ก็คือ หอสมุดแห่งชาติครับ


ผมเชื่อว่าหลายๆคนคงได้มีประสบการณ์ไปเยี่ยมไปเยือนหอสมุดแห่งชาติมาบ้างไม่มากก็น้อย ผมก็เช่นกันครับ
เมื่อตอนผมเรียนประถมอยู่นั้น ผมได้มีโอกาศไปใช้บริการหอสมุดแห่งชาติอยู่บ้าง เพื่อหาข้อมูลทำรายงานส่งครู แม้ว่าตอนเด็กของผมนั้นจัดได้ว่าเป็นเด็กที่ขี้เกียจเอามากๆ ไม่เคยอ่านหนังสือเลย ไม่ว่าที่บ้านจะหาวิธีให้อ่านหนังสืออย่างไรก็ไม่ยอม จำได้ว่าแม่เป็นห่วงมาก กลัวว่าโตขึ้นจะไม่เป็นโล้เป็นพาย เพราะวันๆมันเอาแต่นอนเลี้อยอยู่หน้าจอทีวี ถ้าไม่อยู่หน้าจอทีวีก็แอบไปเล่นเกมส์ ตีปิงปอง แทงสนุกเกอร์ไปเรื่อยเปื่อย ด้วยความโชคดีที่เป็นคนหัวดีพอควร กอรปกับตอนเรียนจะตั้งใจฟังครูสอนในห้องอยู่เสมอ แต่เป็นการตั้งใจฟังในสภาวะบังคับนะครับ เพราะเนื่องจากตอนเด็กนั้นผมตัวค่อนข้างเล็ก ถ้าจัดอันดับแล้วถือว่าเล็กเป็นอันดับสองของห้องเลยทีเดียว ครูจึงมักให้ที่ประจำเป็นโต๊ะแถวหน้าๆอยู่เป็นประจำ จึงทำให้ต้องตั้งใจฟังครูอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เลยยังผลให้เกรดที่ออกมานั้นน่าเกลียดแบบพอให้อภัยได้...
ยังจำได้อีกว่าตอนเรียนประถมนั้นผมชอบช่วงเวลาสอบมากที่สุด เพราะไม่ต้องเรียน ซ้ำยังสบายอีก เข้าห้องไปก็แค่กาข้อสอบ เลิกก็เร็ว ไม่เคยคิดว่าอีกไม่กี่ปีถัดมาช่วงสอบจะกลายเป็นงานประเพณีเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยวไปได้ ต้องอ่านหนังสือดั่งคนมีองค์ลง และต้องแสดงอิทธฤิทธิ์ด้วยการเดินฝ่าทะเลเพลิง ถ้าองค์ประทับไม่แน่นแล้วมีสิทธิ์โดนไฟคลอกแน่นอน...
"จากเด็กที่ไม่ยอมอ่านหนังสือ กลายเป็นหนอนหนังสือตัวเล็กๆไปได้ ถ้ามีจังหว่ะดีๆจะเล่าให้ฟังครับ"

ผมมีโอกาสได้ไปหอสมุดอีกทีตอนช่วงหน้าฝนปีที่แล้วครับเพราะต้องหาที่อ่านหนังสือเตรียมตัวสอบ ซึ่งหลังจากสอบเสร็จก็ไม่ได้ไปอีก จวบจนมาถึงหน้าร้อนปีนี้ ด้วยอาการแพ้อากาศร้อนของผมทำให้นึกถึงหอสมุดแห่งชาติขึ้นมาอีกครั้ง

หอสมุดแห่งชาติช่วงนี้เป็นที่ถูกใจผมยิ่งนัก เนื่องจากยังเป็นช่วงปิดเทอมของโรงเรียนอยู่ทำให้ไม่มีนักเรียนมาค้นคว้าข้อมูล กอรปกับมีการปรับปรุงพื้นที่ก่อสร้างข้างล่าง ซึ่งคนผ่านไปผ่านมาจะมองเหมือนหอสมุดปิดปรับปรุง ทำให้คนมาใช้บริการนั้นน้อยลงไปอีก
สงบครับ สงบถูกใจผมมากๆ แอร์ก็เย็น เงียบก็เงียบ จึงทำให้ผมเริ่มเปลี่ยนจากสัมภเวสีกลายมาเป็นเจ้าที่ทันที อยู่ทนอยู่นาน อ่านหนังสือเล่มนุ้น เล่มนี้ไปเรื่อย ข้อเสียอย่างเดียวของหอสมุดแห่งชาติคือห้ามเอาหนังสือเข้าครับ แต่ด้วยความที่มีหนังสืออยู่เยอะทำให้พอจะอะลุ่มอะล่วยกันได้

พูดถึงเรื่องการอ่านหนังสือ ผมเคยได้รับทราบข้อมูลข่าวสารงานวิจัยการอ่านหนังสือของคนไทยมาบ้างว่า โดยเฉลี่ยแล้วคนไทยอ่านหนังสือเพียงวันละ 6-7 บรรทัดเท่านั้น มันเลยเป็นประเด็นน่าสนใจในการวิเคราะห์ว่าอัตราการอ่านหนังสือนั้นน่าจะสัมพันธ์กับอะไรบ้าง

จากประสบการณ์และข้อมูลที่ได้อ่านๆมา ผมมีความคิดว่าคนจะอ่านหนังสือหรือศึกษาเพิ่มเติมได้นั้นต้องมีความสนใจไคร่รู้เป็นเหตุตั้งต้น ถ้าไม่มีความกระหายอยากรู้อยากเห็นแล้ว ความรู้สึกอยากอ่านคงไม่เกิดขึ้น ตัวอย่างความสัมพันธ์ที่มองเห็นได้ง่ายๆนั้นเช่น นิตยสารที่วางขายตามท้องตลาด ถ้าเราสังเกตดีๆแล้วเราจะพบว่านิตยสารทุกเล่มจะต้องมีข้อความบอกตรงหน้าปกว่าในเล่มจะมีเรื่องอะไรบ้าง เพื่อเป็นการกระตุ้นให้คนสนใจ โดยคนซื้อนั้นก็ต้องอ่านตรงหน้าปกว่าเรื่องที่เขานำเสนอนั้นน่าสนใจน่าที่จะอยากรู้หรือไม่ ถ้าน่าสนใจถึงจะซื้อ ถึงตอนนี้อาจจะมีคนแย้งว่าบางคนซื้อนิตยสารโดยไม่ได้อ่านหัวข้อเรื่องตรงหน้าปกด้วยซ้ำไป คนที่ซื้อนิตยสารโดยไม่อ่านนั้นจะมีสองพวกครับ

ก.) กลุ่มคนที่เป็นแฟนประจำของนิตยสารนั้น กลุ่มนี้เขามีความไว้ใจเป็นทุนเดิม เขาเชื่อว่าเรื่องที่จะนำเสนอในนิตยสารนั้นเป็นในแนวที่เขาสนใจ ซึ่งจะเป็นเรื่องอะไรก็แล้วแต่ เขาก็สนใจอยากอ่านอยู่แล้ว ดังนั้นข้อนี้จึงเป็นประเด็นที่ทำให้เกิดการจัดกลุ่มประเภทของนิตยสารขึ้น เช่นว่านิตยสารนี้เป็นกลุ่มวิทยาศาสตร์ นิตยสารนั้นเป็นกลุ่มสังคม เศรษฐกิจเป็นต้น อีกประการคือทำให้เกิดรูปแบบการเป็นสมาชิกขึ้น เพื่อมาสนองความต้องการของกลุ่มคนที่เป็นแฟนประจำนั่นเอง
ข.) กลุ่มคนที่ซื้อนิตยสารโดยไม่อ่าน...แต่เน้นดูอย่างเดียว คงพอเดาได้นะครับว่าน่าจะเป็นนิตยสารแนวใหน กลุ่มนี้เวลาซื้อก็ต้องมีความสนใจมาเป็นตัวตั้งต้นเช่นกัน คือหลังจากดูแล้วเกิดความสนใจขึ้นมาว่าข้างในจะมีอะไรเร้าใจกว่าหน้าปกหรือเปล่า?

ที่นี้มาคิดต่อว่าแล้วที่คนไทยอ่านหนังสือน้อยแสดงว่าความอยากรู้มีน้อยหรือไม่...
เป็นไปได้ครับ โดยปกติแล้ววัฒนธรรมไทยจะเน้นให้มีความเคารพเชื่อฟังผู้ใหญ่ ผู้ใหญ่สอนอะไรต้องเชื่อฟัง เด็กคนใหนไม่ฟังก็จะมีการดุด่าว่ากล่าวว่าดื้อ การศึกษาไทยก็เช่นเดียวกันครับ ครูพูดอะไรต้องเชื่อฟัง อย่าเถียง ดังนั้นสภาพทางสังคม วัฒนธรรมหรือระบบการศึกษาแบบนี้ไม่เอื้อให้เกิดจินตนาการ การคิดเพิ่มเติมสักเท่าไร เมื่อจินตนาการ และความคิดถูกปิดกั้น ความสนใจ ความอยากรู้ก็ลดน้อยถอยลงตามไปด้วย อีกปัจจัยนึงที่มีผลต่อการอ่านหนังสือคือเมื่อเรามีความสนใจเรื่องใดแล้วนั้น จะหาเอกสารหรือหนังสือมาสนองตัญหาก็ยาก เพราะเมืองไทยไม่ค่อยมีแหล่งหนังสือสาธารณะครับ ทำให้การเข้าถึงความรู้เป็นไปได้อย่างยากยิ่ง เมื่อไม่มีที่ให้เข้าถึงความสนใจที่เคยมีก็ฝ่อตัวลง แต่สมัยนี้ยังดีที่เรายังมีอินเตอร์เนตให้ใช้ค้นคว้าหาความรู้กัน แต่อย่างว่าครับ อินเตอร์เนตเป็นดาบสองคม ทำให้คนเป็นปราชญ์ก็ได้ ทำให้คนเป็นโจรก็ได้...

ฟ้ามืดครึ้ม นกน้อยกำลังบินกลับรัง ลมพัดเบาๆแต่เย็นสบายเข้ามาสัมผัสกาย ผมเดินออกจากหอสมุดแห่งชาติ พร้อมประเด็นความคิดอีกหลายหลากจากหนังสือที่ได้อ่านให้ไปขบคิดต่อ ขึ้นรถเมล์กลับบ้าน และคิดบนรถเมล์ต่อไปเรื่อยๆ รู้ตัวอีกที ก็ต้องมีประเด็นคิดเพิ่มอีก... "ที่นี่ที่ใหนวะ??"


ดวง
20070505 15:14

6 comments:

Unknown said...

ชิวดีน่ะพี่ นั่งรถเมล์ กินลมเย็นๆ

ต่างคน ต่างมีสไตส์ผ่อนคลาย ไปแต่ล่ะคน

แต่ปลายทาง ก็คล้ายๆ กันหมดเน๊อะ ก็ประมาณว่าไรอ่ะ


"ความสุขของเราเอง" มั้ง อิอิ

http://golfreeze.212cafe.com

Unknown said...

หลงทางอีกแล้วหรอจ้ะ :D

Odysseus said...

golfreeze: ตอนนั่งชิวมากครับ ประมาณตามใจพี่คนขับ ไปใหนไปด้วย...

supreeya: ไม่ได้ล๊งๆ แค่สำรวจเส้นทางหม่ายย :-)

Anonymous said...

ตอนเด็กตัวเล็ก...
เหตุไฉน ....

Unknown said...

555 ระวังสำรวจจนทั่วกรุงเทพน๊า :P

ปล. อยากไปเที่ยวลาวอะ อย่าลืมจัด trip ตอน
ตุลานะ คาดว่าว่างพอดีแหละ

Odysseus said...

[muay_tatee]: เค้าเรียกม้าตีนปลาย.. ยังโตอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าความสูงจะหยุดแล้วก็ตาม -_-'

supreeya: ได้ๆ เด๋วไว้ใกล้ๆ จะแจ้งอีกที


 
Creative Commons License
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-Noncommercial 3.0 Thailand License.