Saturday, August 25, 2007

ไออุ่นลาวใต้ ตอน 11

อุบล#6

ในบริเวณใกล้ๆวัดหนองบัวนั้น จะมีสวนสาธารณะอยู่ใกล้ๆแต่ด้วยความที่สวนนี้เพิ่งสร้างขึ้นมาจึงทำให้บรรยากาศยังไม่ร่มรื่นเท่าที่ควร ต้นไม้ยังเล็กอยู่ ดูแล้วช่วงเวลาเย็นๆน่าจะชวนนั่งเหมือนกัน และแม้ว่ายังกลางวันอยู่แต่ก็อดใจที่จะแวะเข้าไปเดินเล่นไม่ได้ เดินจนพอใจแล้วถึงออกมาได้

อย่างที่ทราบว่าผมไม่ได้เข้าพิพิทธภัณฑ์ตามที่ตั้งใจไว้เนื่องจากมันปิด ผมจึงเปลี่ยนเป้าหมายมาที่จุดค้นพบโบราณวัตถุวัดบ้านก้านเหลืองแทน เท่าที่ดูข้อมูลนั้นไม่มีรถสองแถวผ่านหน้าวัด จะต้องเดินหรือนั่งมอเตอร์ไซด์รับจ้างเท่านั้น และเท่าที่ดูรอบๆข้าง ไม่เห็นมอเตอร์ไซด์รับจ้างเลยสักคัน...

แวะซื้อน้ำเปล่าตุนไว้ที่เซเว่น จึงถามถึงเส้นทางไปวัดบ้านก้านเหลืองไปในตัว ได้ความว่า "ใกล้ม๊ากกค่ะ สองกิโลเท่านั้นเอง ไปส่งก็ได้นะคะ"

ไม่มีเชิญชวนซื้อขนมจีบซาลาเปาอย่างที่คุ้นเคย แต่เป็นน้ำใจที่ล้นเอ่อเกินถ้วยบิ๊กกัลฟ์จะรับได้ ใจดีจริงๆ...

ผมยิ้มพร้อมผงกหัวขอบคุณในน้ำใจ แต่เลือกที่จะเดินไปเองดีกว่า กับแค่สองกิโล อืมมม...สบายยยยยย

สิบห้านาทีผ่านไป....

ท้องฟ้าสดใส ไร้ซึ่งเมฆมาบดบัง...เอ่อ..แสงแดด อากาศร้อนมาก แม้ว่าจะเป็นเดือนธันวาก็ตาม
เหงื่อเริ่มท่วม... ยังไม่เห็นวี่แวววัดบ้านก้านเหลืองแม้แต่น้อย ทนไม่ไหวเลยต้องแวะถามคนเพื่อความแน่ใจว่ายังไม่ได้เดินเลยมาแล้ว ได้คำตอบว่ายังไม่ถึง อยู่ตรงหัวมุมนุ้นนน พร้อมชี้นิ้วประกอบ
อืมมม... สุดสายตาพอดี เป็นสองกิโลที่เหนือความคาดหมายจริงๆ แต่ไม่มีทางเลือก เดินก้มหน้าก้มตาต่อไป

อีกสิบห้านาทีผ่านไป...

เข้ามาภายในวัดพร้อมสภาพที่ชุ่มเหงื่อ ยืนอยู่หน้าหม้อดินเผาแปดใบในหลุม เอ๊ะ...ทำไมไม่เหมือนในรูปในหนังสือท่องเที่ยว เช็คไปเช็คมาทำให้ทราบว่าวัตถุโบราณบางส่วนได้ถูกย้ายออกไปเก็บไว้ที่พิพิทธภัณฑ์ จึงเหลืออยู่เท่าที่เห็น... -_-'



ดูหม้อแปดใบคนเดียวอย่างงงๆ กับคำอธิบายที่ทำเป็นบอร์ดไว้ก็ไม่ได้บอกอะไรมาก... ยังดีที่ภายในวัดนั้นร่มรื่นพอสมควร พร้อมกับมีลมเย็นๆ โชยมาตลอดเวลา ช่วยทำให้ใจได้ผ่อนคลายลงอย่างดี ผมใช้เวลานั่งพักผ่อนให้ร่างกายที่เปียกไปด้วยเหงื่อได้แห้งลงไปบ้าง พร้อมกับจดบันทึกสิ่งที่ได้พบเจอมา

"บางทีความจริงกับสิ่งที่เราคาดหวังจะสวนทางกันบ้าง ก็คงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร..." อย่างไรซะ มีความสุขกับความจริงก็คงไม่ใช่สิ่งที่ทำไม่ได้...

กับอีกสองกิโลขากลับ แม้ว่าจะรู้แล้วว่าร้อน เหนื่อย และห้วงเวลาแห่งความทรมานจะทำเวลาในหนึ่งวินาทียาวกว่าความเป็นจริง แต่สิ่งที่ผมได้บันทึกไว้อีกทีหลังจากเดินเสร็จแล้ว... "เรามีทางเลือกอยู่เพียงสองทาง จะเดินด้วยอารมณ์หงุดหงิด หรือเดินไปฮัมเพลงไป"

ผมไม่รู้ว่าผมฮัมไปกี่เพลง แต่สิ่งที่รู้มีแค่เพียงสองกิโลขากลับ ยาวไม่เท่าขาไป!
และรู้ด้วยว่าตัวกำหนดระยะทาง คงไม่ได้มีเพียงเครื่องวัดเท่านั้น ถ้าเราลองเริ่มใช้ใจวัดดู
"ซึ่งผลที่ได้จะสวนทางกับความจริง ก็คงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร..."


ดวง
20070826 00:13

Monday, August 13, 2007

จิดวิทยาหมู่

แต่ก่อนแต่ไรมา ผมเชื่อมั่นมาตลอดถึงความมีสติในการจับจ่ายใช้สอยเงินทอง
เชื่อมั่นในการสั่งสอนของแม่ ที่มักจะให้ลูกเก็บตังค์ซื้อของเองเมื่อต้องการ
คุณค่าของเงินจึงเป็นสิ่งที่ผมตระหนักดี ว่าควรใช้เมื่อใด เพื่อสิ่งใด และควรจะตัดใจไม่สนใจเสียเงินทองกับเรื่องใด

จนกระทั่งวันนี้... วันที่ผมรู้สึกเหมือนกับตัวเองเป็นหมอประกิตเผ่า ที่ถูกรายล้อมด้วยเปมิกานับสิบชีวิต
เงินทองทั้งหมดทั้งปวง หายไปเมื่อใดไม่ทราบ รู้ตัวอีกทีก็ไม่มีเหลือแล้ว...

ผมเสียท่าให้กับจิตวิทยาหมู่ครับ...
นี่เป็นครั้งที่สองแล้ว ที่ผมโดนจิตวิทยาหมู่เล่นงาน
ครั้งแรกผมพลาด... แต่ยังเชื่อมั่นว่าเอาอยู่ ครั้งต่อไปไม่มีทางพลาดแน่นอน
แต่แล้ว...ผมก็สู้ไม่ไหว หมดสมรรถภาพทางการใช้เงินไปอย่างไม่น่าเชื่อ
อยากจะร้อง ฮาเลลูย่าาาา ออกมาดังๆ แต่ตัดใจได้ทันเพราะคิดว่ามันไม่เกี่ยวกัน...

จุฬามีเปมิกาเพียงคนเดียว แต่ที่นี่ TBT (Thailand Book Tower) มีเปมิกาเป็นสิบๆ

ครับ!... ผมโดนจิตวิทยาหมู่เล่นงานที่ TBT

อันที่จริงแล้ววันนี้ผมออกจากบ้านโดยมีเป้าหมายไปที่การซื้อหนังสือในตำนาน "ข้างหลังโปสการ์ด โดยหลานเสรีไทย" ซึ่งเป็นหนังสือแนวท่องเที่ยวที่ชอบมาก ได้อ่านอย่างบังเอิญโดยพี่ IKKE แนะนำมา เล่มที่อ่านนั้นเป็นหนังสือยืมจากห้องสมุด ทำให้พออ่านจบก็เกิดกิเลสอยากมีไว้ให้ได้หยิบมาอ่านอีกทีเป็นแบบส่วนตัวบ้างสักเล่ม ลองๆหาข้อมูลดูก็ไม่พบร้านที่มีขายเลย จึงพาลให้คิดว่าไม่น่าจะหาได้อีกแล้ว จนกระทั่งเมื่อวาน...ได้ทราบข้อมูลอย่างบังเอิญว่ามีขายที่ร้านตรงถนนปั้น ซึ่งเป็นร้านของหลานเสรีไทยเองเลย



ถนนปั้นกับ TBT นั้นห่างกันไม่เกิน 500 เมตร จึงเป็นเหตุให้ผมตัดสินใจเพิ่ม TBT เข้าไปในจุดหมายด้วย เพื่อหมายมั่นว่าจะมาแก้มือจากครั้งก่อนที่เพลาดท่าเสียทีไป

แต่เดินใน TBT ไม่ถึงสองชั่วโมงดี ผมก็พบว่าตัวเองมายืนอยู่หน้าตู้เอทีเอ็ม ตั้งท่ากดจำนวนเงินเพื่อนำมาใส่กระเป๋าแทนที่เงินที่อยู่ก่อนหน้า โดยที่ด้านขวามือนั้นมีหนังสือหนึ่งกองข้างๆรอหิ้วกลับบ้าน ซึ่งอยู่ในจังหว่ะเดียวกับความต้องการที่จะร้อง ฮาเลลูย่าาาาออกมา
อย่างที่ทราบไม่ได้ร้องเพราะไม่เกี่ยวกัน...

TBT จะมีทั้งหมดเก้าชั้นครับ แต่จะมี 6 ชั้นอรหันต์ทีจะขายหนังสือ โดยที่แต่ละชั้นนั้นจะมีโซนหนังสือ 4-6 โซนโดยประมาณ ซึ่งเมื่อคำนวนดูแล้วจะพบว่าถ้าเดินครบทั้งตึกจะเจอโซนหนังสือ 24-36 โซน

24-36 โซน!! หมู่ไหมครับ... จิตวิทยาหมู่ชัดๆ
เล่นเอาร้านหนังสือมาล้อมหน้าล้อมหลัง ล้อมบนล้อมล่างอย่างนี้ เดินออกจากร้านหนังสือก็เจอร้านหนังสือ ขึ้นบันไดเลื่อนจากชั้นขายหนังสือก็เจอชั้นขายหนังสืออีก ทำให้สติสัมปะชัญญะผมขาดเอาง่ายๆเลย
ถ้าแค่เพียงซื้อร้านละเล่มสองเล่มก็ไม่รู้จะเอาตังค์ที่ใหนมาจ่ายแล้ว จึงไม่แปลกที่ฐานะอย่างผมจะหมดตัวไม่เกินชั้นสาม

กดตังค์เสร็จแล้วก็หอบหิ้วหนังสือเดินหาร้านที่ขายข้างหลังโปสการ์ดอยู่สักพักจึงเจอครับ โชคดีที่ได้ซื้อเพราะจริงๆแล้ววันนี้ปิด แต่เผอิญมีคนอยู่จึงขายให้ได้

โดยรวมถึงแม้ว่าวันนี้จะต้านจิตวิทยาหมู่ไม่ได้ แต่ก็มีความสุขดีครับ :-)

ตัวหนังสือคุ้มครองนะครับ
ดวง
20070813 11:02

Link ที่เกี่ยวข้อง
เว็บของร้านหลานเสรีไทย
http://www.kathmandu-bkk.com
เว็บ TBT
http://www.thailandbooktower.com

Wednesday, August 1, 2007

ลาว กับ จิต

เพิ่งกลับมาจากลาวครับ...

ช่วงเข้าพรรษาที่ผ่านมาเห็นว่าน่าจะเป็นการดีที่จะมีโอกาสทำบุญพร้อมกับเที่ยวไปด้วย เลยตัดสินใจไปหลวงพระบางเพื่อใส่บาตรพร้อมกับเดินชมวัดไปในตัว
เที่ยวครั้งนี้เป็นการตัดสินใจแบบปุบปับก่อนวันไปสามวันและแทบจะไม่ได้เตรียมตัวอะไรเลยครับ คงจะมีเพียงตั๋วรถไฟไปลงหนองคายเท่านั้นที่มีการจองไว้ก่อน ส่วนที่เหลือเรียกได้ว่าไปตายดาบหน้าจริงๆ เป็นการเล่นแบบแผลงๆพอสมควร เลยทำให้เที่ยวครั้งนี้ทุลักทุเลมาก... มากเสียจนเสียวว่าจะกลับเมืองไทยไม่ได้ไปหลายครั้งหลายครา

แต่ในทางกลับกัน ความทุลักทุเลก็ทำให้เที่ยวครั้งนี้มีชีวิตชีวาไม่น้อย ได้ไปอยู่ในที่ๆไม่มีนักท่องเที่ยวอยู่ ได้คุยกับคนที่นั่นอย่างสบายๆ กันเองๆ ได้สนุกและดื่มด่ำกับความงามของธรรมชาติเมืองลาวอย่างที่ไม่รู้จะหาคำพูดมาอธิบายอย่างไรถูก

ถ้าเราไม่ปิดใจ เมื่อเราพลาดสิ่งหนึ่งไปเราจะเห็นว่าเราจะได้อีกสิ่งหนึ่งมาทดแทนทุกครั้ง...
เมื่อผมจะต้องออกเดินทางจากเวียงจันทน์ไปหลวงพระบาง ผมพลาดรถแอร์อย่างดีเที่ยวเช้าไป แต่ได้รถโทรมๆ ไม่มีแอร์เที่ยวบ่ายมาแทน ความรู้สึกแรก เราไม่น่าพลาดเลย...

สองชั่วโมงถัดไป... ในขณะนั่งผมพบว่าวันนี้เป็นวันเสาร์ที่มีความสุขมากที่สุดวันหนึ่งของชีวิต ภายใต้บรรยากาศครึ้มๆ มีละอองฝนโปรยปรายมาเป็นระยะๆผสมกับกลิ่นไอดินที่ผมชอบ เคล้าลมเย็นๆที่พัดมาตลอดเวลา แถมยังรายล้อมด้วยเทือกเขาที่สลับซับซ้อนสวยงาม ทุกสิ่งทุกอย่างในเวลานั้น เป็นสิ่งที่ผมชอบทั้งหมด ทั้งสิ้น และไม่เคยได้มีโอกาสสัมผัสแบบครบอย่างนี้มาก่อน

ในขณะนั้นรถโทรมๆ เบาะเก่าๆ สำหรับผมแล้วมันได้กลายเป็นรถที่วิเศษสุดจริงๆ

ย้อนกลับมาคิดดู ถ้าผมนั่งรถแอร์เที่ยวเช้า ผมคงไม่ได้สัมผัสกับละอองน้ำ คงไม่ได้กลิ่นไอดิน คงไม่ได้รับลมเย็นๆ และคงรู้สึกเหมือนการเดินทางทั่วๆไปในวันธรรมดาวันหนึ่ง

ถ้าจะเรียกว่าเป็นการพลาดอย่างโชคดีก็คงจะไม่ผิดนัก แต่ไม่ว่าพลาดแล้วจะเจอสิ่งใด มันคงจะดีกว่าไหมที่จะพร้อมเจอสิ่งที่มาทดแทนด้วยรอยยิ้ม แล้วอยู่กับสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นให้มีความสุข แทนที่จะรำพึงรำพันกับสิ่งที่พลาดไปโดยไม่ได้อะไรขึ้นมา

จริงอยู่บางอย่างแม้ยิ้มรับ ก็คงรู้สึกว่าเกินจะทนไหว แต่ถ้าให้เลือกระหว่างที่จะต้องหงุดหงิด ตีโพยตีพายกับความทุกข์ยากที่ตนเองจะต้องเผชิญ กับการทนที่จะฝืนยิ้มรับมันเพื่อให้ใจเรานิ่งพอที่จะพิจรณาหาทางออกที่ดีกว่า ผมคงเลือกอย่างหลัง...

ถ้าจิดไม่สงบแล้ว ปัญญาคงยากที่จะเกิด พระท่านว่าอย่างนั้น

ปกติผมเป็นคนชอบที่จะอยู่กับความสวยงามของสิ่งที่ธรรมชาติสร้างมากกว่ามนุษย์สร้างอยู่แล้ว ดังนั้นแม้ว่าหลวงพระบางจะประกอบด้วยตึกรามบ้านช่อง และวัดวาอารามที่เป็นของเก่าบูรณะ อย่างสวยงาม ตามที่เป็นเมืองมรดกโลกก็ไม่ได้ดึงดูดใจผมได้นานสักเท่าไร เดินดูสักพักก็รู้สึกอิ่ม แต่สิ่งเดียวที่มนุษย์สร้างแล้วดึงดูดใจในหลวงพระบางเห็นจะเป็นสตรี สวยจนอยากอยู่ต่อ

เงาะเมืองไทยโลละ 20 บาท หลวงพระบางโลละ 40 บาท ตอนซื้อไม่ได้สนว่าเป็นราคาแพงหรือเปล่า หลับหูหลับตาซื้อมาเนื่องด้วยเหตุปัจจัยมาจากแม่ค้าอย่างเดียว สวยบาดใจจริงๆ เขาว่าความรักทำให้คนตาบอด แต่เห็นจะต้องเพิ่มเข้าไปด้วยว่าความหลงทำให้สมองส่วนประมวลเหตุผลไม่ทำงาน ไม่ได้อยากกินเงาะแต่ซื้อเงาะ ตอนซื้อก็เขินซะจนทำอะไรไม่ถูก รับมาจ่ายตังค์แล้วเดินออกทันที คิดไม่ออกว่าควรจะทำอย่างไร...

อืม... ถ้าจิตไม่สงบแล้ว ปัญญาคงยากที่จะเกิด :-)






ดวง
20070805 12:38

 
Creative Commons License
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-Noncommercial 3.0 Thailand License.