Sunday, June 6, 2010

บาลี้ บาหลี

หายไปนาน....นานจริงๆ ^^''

ผมเคยคิดว่าจะอัพบล๊อคให้ได้ก่อนครบปี ซึ่งตอนนี้ก็ผ่านมาจนจะเป็นหนึ่งปีกับหนึ่งเดือนแล้ว แม้จะละอายใจกับตัวเองอยู่บ้าง แต่ก็เหมือนจะด้านพอตัว เพราะปล่อยผ่านมาได้อีกหนึ่งเดือน...

พี่ๆ น้องๆ หลายคนถามไถ่ด้วยความเป็นห่วงว่า ลาวใต้ นี่ยังจำได้อยู่หรือเปล่าว่าจะเขียนอะไรต่อ ซึ่งผมก็ได้แต่ตอบไปว่าไม่ต้องห่วงครับ ยังพอสามารถเขียนต่อได้ เพราะจดข้อมูลไว้แล้ว ขาดอย่างเดียวตอนนี้....ความขยัน

และมาคราวนี้ หาใช่เขียนลาวใต้ต่อไม่ แต่ขอคั่น (อีกแล้ว) ด้วยทริปล่าคือบาหลีครับ

เมื่อกลางเดือนพฤษภาที่ผ่านมาผมได้มีโอกาสไปบาหลีกับเพื่อน ๆ MBA โดยตลอดทั้ง 8 วันผมสามารถตั้งข้อสังเกตและสรุป บาหลีในความคิดผมได้ดังนี้ครับ

1. บาหลีเป็นเกาะที่ครบเครื่องมาก ถ้าเป็นอาหารจะเป็นพวกรวมมิตรครับ ทะเล น้ำตก ภูเขา อารยธรรม ดิสโก้เธค และอื่นๆ อีกมากมาย รวมอยู่ในเกาะเดียว เกาะเล็กๆ แห่งนี้
2. ถนนที่บาหลีลาดยางทั้งหมด สามารถขับขี่ได้อย่างราบเรียบ แต่ไม่ราบลื่น เพราะเลนของถนนค่อนข้างแคบ
3. รถยนต์ที่นี่เป็นเกียร์แมนวลเกือบทั้งเกาะ
4. คนที่นี่ขับรถค่อนข้างเรียบร้อย จะมีขับรถน่ากลัว และหวาดเสียวอยู่คนเดียว คือพี่คนขับที่เราจ้างไว้ขับรถพาเที่ยวเนี่ยแหล่ะ
5. คนบาหลีที่อยู่ตามเมืองท่องเที่ยวหรือเมืองใหญ่ สามารถพูดภาษาอังกฤษได้ดีเกือบทุกคน ยกเว้นพี่คนที่เราจ้างไว้ขับรถพาเที่ยวอีกเช่นเดิม
6. ร้านอาหารที่คิดราคาอาหารตามน้ำหนัก สามารถทำให้คนกิน ปวดตับเพราะกังวลว่าเงินจะไม่พออยู่ต่อ ก็เป็นร้านอาหารที่คนขับคนเดิมพาไป.... เวรกรรมแท้ๆ
7. วัดในบาหลีจะแบ่งเป็น 2 ส่วน คือส่วนที่คนที่ไม่ได้นับถือศาสนาฮินดูเข้าได้ และเข้าไม่ได้ และวัดจะมีผ้าคาดเอว พร้อมโสร่งให้เช่าสำหรับนักท่องเที่ยว
8. สำหรับนักท่องเที่ยวนั้นการเที่ยววัดในบาหลี เหมือนกับวัดในประเทศไทย คือวัดแรกจะตื่นเต้นมาก ทุกอย่างดูสวยงามไปหมด และจะลดลงเรื่อยๆ ตามจำนวนวัดที่ไป เมื่อถึงวัดที่ 5 เราจะมองวัดนั้นอย่างผ่านๆ
9. คนบาหลีไม่เน้นโกงเงิน แต่เน้นโก่งราคา ดังนั้นเราสามารถต่อราคาได้เกือบทุกอย่างในบาหลี
10. ราคาที่แท้จริงนั้น ยากที่จะทราบได้ ทั้งนี้ใครได้ราคาเท่าไร ขึ้นอยู่กับความพยายาม และชั้นเชิงล้วนๆ
11. คำพื้นฐานที่พ่อค้าแม่ค้าทุกคนใช้พูดคือ How much you want ? โดยใช้ในกรณีที่เรามีสีหน้าลังเลกับราคาที่เค้าตั้งไว้ ถือว่าเป็นแทคติกอย่างนึง เพราะถ้าเผลอต่อโดยที่ยังให้ราคาสูงอยู่ เค้าจะโอเคราคานั้นกับเราทันที
12. การประเมินค่าของสินค้า โดยใช้ราคาในประเทศไทยเทียบ และหักลดอีกสักหน่อยเป็นวิธีที่ Win-Win ที่สุดแล้ว
13. ถ้าเราไม่รู้ราคาสินค้าที่เมืองไทย วิธีที่ดีที่สุดคืออย่าไปต่อ แต่ให้เดินหนี ราคาจะลดลงเองตามระยะห่างของเรากับร้าน พร้อมกับเสียงตะโกน How much u want ๆๆ ตลอดเวลา
14. ถ้าเราต่อราคาหนักมาก พ่อค้า แม่ค้า จะทำหน้าบูด และร้องโอดโอย ประหนึ่งโดนเสียบข้อเท้าระหว่างเลี้ยงบอลอยู่
15. ถ้าแม่ค้า พ่อค้า โอเคขาย แต่บอกว่า No bag หรือไม่ใส่ถุงให้ แสดงว่าเราได้ราคาถูกมาก
16. สถิติสูงสุดที่ต่อได้คือจาก 2,500,000 รูเปียะห์ เหลือ 100,000 รูเปียะห์ หรือ 25 เท่า สุดท้ายก็ไม่เอา เพราะรู้สึกว่าร้านค้าโก่งราคา และตื้อเกินไป (คนขายพูดอย่างกันเองก่อนว่าเพราะเราเป็นคนไทยเลยให้ 2,500,000 ถ้าเป็นฝรั่งเค้าตั้งราคา 6,500,000 ฟังแล้ว....อมิตาพุทธ )
17. ถ้าเข้าร้านอาหาร โดยเฉพาะตามแหล่งท่องเที่ยว ถ้าไม่เห็นป้ายราคา ควรถามราคาก่อนซื้อ เพราะแม้ว่าก่อนหน้าคนบาหลีจ่ายเพียง 3,000 แต่เราอาจโดนถึง 20,000 รูเปียะห์ได้
18. หาดคูตาเหมือนภูเก็ต และอูบุดก็เหมือนเชียงใหม่ ดังนั้นใครใคร่ชอบอันใหนเลือกอยู่ได้ตามใจครับ
19. การได้ลองกินอาหารถิ่น สามารถสร้างความสุขได้ อาหารหลายๆ อย่าง ถือว่าอร่อยทีเดียว
20. ร้านอาหารที่ชอบที่สุดที่บาหลีคือ Bebeg bengil เขียนอย่างนี้เปล่าหว่า??? อยู่ถนนหนุมาน ในอูบุด และร้านที่มีพนักงานนิสัยดีที่สุดคือ Totemo อยู่เมืองคูตา
21. ที่พักที่ควรเลี่ยงคือ Adus ที่เมืองคูตา ..... ไม่ไหวด้วยประการทั้งปวง

โดยรวมบาหลี เป็นเกาะที่น่าเที่ยว สวย สงบ และงามครับ หลังจากไปใช้ชีวิตอยู่หลายวัน คิดว่าถ้ามี Asia 0 บาทอีก ก็จะไปอีก ^^

ดวง
20100606 20:51

 
Creative Commons License
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-Noncommercial 3.0 Thailand License.