Monday, March 19, 2007

ไออุ่นลาวใต้ ตอน6

อุบล#1

รถเคลื่อนที่เข้ามาจอดที่ท่ารถจังหวัดอุบลเกือบ 6 โมงเช้า
อากาศหนาวกว่าที่คาดไว้พอสมควร
อาการเศร้าใจคืบคลานเข้ามา เพราะตัดสินใจไม่เอาเสื้อกันหนาวกับถุงนอนติดมาด้วย
ถ้าเอามาเป้จะเต็มเจียนล้น...
โบราณท่านว่าขากลับมักจะบรรทุกของมากกว่าขาไปเสมอ
จึงไม่เสี่ยงทุลักทุเลขากลับ แต่เข้าใจว่าอากาศหนาวอย่างนี้ คงจะต้องเสี่ยงกับหนาวตายแทน...

นัดกับดำไว้แล้วว่าจะรบกวนให้มารับที่ท่ารถ และจะขอนอนด้วยหนึ่งคืน
แต่... ยังไม่กล้าโทรไปตาม ไม่อยากปลุกให้ตื่นแต่เช้า
นั่งดูทีวีรอเวลาไปเรื่อยๆ ไม่ได้ดูทีวีตอนเช้ามานานมากกก
ครั้งสุดท้ายที่ดูน่าจะเป็นตอนเรียนลาดกระบัง ไม่ได้ตื่นตั้งแต่เช้ามาดู แต่ยังไม่ได้นอน...
ใกล้เจ็ดโมงจึงโทรไป ดำตื่นแล้ว ค่อยยังชั่ว ไม่ได้เป็นคนโทรมาปลุก
คุยไปคุยมา ได้ความว่าดำเป็นคนตื่นเช้าเป็นปกติ และตื่นตั้งแต่หกโมงแล้ว...
ได้แง่คิดว่า อย่าได้คิดว่าคนอื่นจะเป็นคนตื่นสายเหมือนตน แม้จะจบจากลาดกระบังเหมือนกัน :-)

ไม่นานดำก็โทรมาบอกว่ามาถึงแล้ว
ออกไปตรงจุดนัดพบ เจอกันครั้งแรกมันชูมือเรียก แต่มองข้ามไปไม่ได้สนใจ นึกว่าคนขับรถสองแถว...
ที่มองไม่เห็นเพราะทรงผมมันครับ เด๋อจนจำไม่ได้
แต่ไม่ได้บอก... ดูเหมือนดำคงรู้ตัว เพราะสีหน้าผมอึ้งได้โดดเด่นขนาดนั้น
ดำบอกว่าช่วงที่กลับไปอยู่บ้าน แม่ให้ไปตัดผม เลยเข้าไปร้านตัดผมแถวนั้น
ออกมาก็ทรงนี้เลย...

ดำเป็นคนศรีษะเกษ หรือกาฬสินผมไม่แน่ใจ
ดำพึ่งออกจากบริษัทที่ผมทำอยู่มาทำงานการไฟฟ้าอุบลได้ไม่นาน ด้วยเหตุผลต้องการอยู่ใกล้บ้าน
เพื่อที่จะดูแลครอบครัวได้สะดวก และแม่อยากให้ทำงานที่การไฟฟ้า
แม้ผลตอบแทนด้านเงินทองของการไฟฟ้าจะสู้ไม่ได้ แต่ผมเชื่อว่าผลตอบแทนทางด้านจิตใจที่เกิดขึ้นที่แม่ของดำนั้นมากมาย...
ผมกับดำสนิทกันมาก ด้วยนิสัยที่ตรงๆ เฮฮาๆ เหมือนๆกัน
เราจึงเป็นเพื่อนที่ถูกคอกันด้วยเวลาไม่นาน...
เรามักจะคุยนุ่นคุยนี่และวิ่งออกกำลังกายที่สวนลุมด้วยกันเสมอ
ผมเชื่อว่าเพื่อนวิ่งหาง่ายครับ แต่เพื่อนวิ่งกลางฝนนี่หายาก
ช่วงแรกที่วิ่งด้วยกัน ผมวิ่งกับดำทีไร ฝนตกตอนวิ่งทุกที แต่เราก็วิ่งครับ
จำได้ว่าวิ่งกันอยู่สองคน คนอื่นหลบฝนกันหมด เค้าคงนึกว่าไอ้บ้าสองคนนี้คงวิ่งแก้บน...

ผมมาถึงห้องดำ เราดื่มกาแฟคุยถามสารทุก สุกดิบ และเรื่องสถานที่เที่ยวกันซักพัก
ได้ความว่า ไม่รู้เหมือนกันตัวเมืองอุบลมีอะไรให้เที่ยว... -_-;
ผมจะอยู่อุบลหนึ่งวัน และวันรุ่งขึ้นจะข้ามไปลาวแต่เช้า คงจะรบกวนไปส่งที่ท่ารถอีกครั้ง
อ่อ... วันที่ผมอยู่ที่อุบลเป็นวันอังคารครับ ดำต้องไปทำงาน ดังนั้นผมจะต้องลุยอุบลคนเดียว
ถือว่าเป็นการเผาหลอก ก่อนถึงวันเผาจริงในวันพรุ่งนี้...



สำหรับผม...
แม้ว่าตอนนี้ผมยังคงวิ่งที่สวนลุม และดำเปลี่ยนมาวิ่งที่สวนหนองบัว
แต่มิตรภาพเรายังคงไม่เลือนลาง แม้ว่าจะวิ่งอยู่คนละที่ก็ตาม...



ดวง
20070319 12:00

2 comments:

ikke said...

ดำเป็นคนกาฬสินธุ์นะ ถ้าความทรงจำไม่ลางเลือนไปเสียก่อน ดำเป็นคนตรงไปตรงมาที่ไม่ค่อยเหมาะนักกับสังคมกรุงเทพฯที่ใส่หน้ากากเข้าหากัน คุยกับดำมักจะได้ความจริงใจเสมอ ถ้าดำเกลียดก็บอกกันตรง ๆ ถ้าชอบก็พูดซึ่ง ๆ หน้า แม้ภายหลังดำจะได้อะไรจากกรุงเทพฯไปมาก แต่การตัดสินใจไปอุบลฯอาจจะเป็นการตัดสินใจที่ดีที่สุด ที่จะทำให้เรายังมีเพื่อนชื่อดำอยู่ได้

สำหรับดำและดวง มันคงเหมือนมองท้องฟ้าจากคนละฟากฟ้าแต่ก็เห็นพระจันทร์ดวงเดียวกันนะ ดูโรแมนติกยังไงไม่รู้ ...อันนี้คงต้องปล่อยให้ทั้งสองอยู่กันตามลำพัง คนอื่นไม่เกี่ยว

Odysseus said...

"การตัดสินใจไปอุบลฯอาจจะเป็นการตัดสินใจที่ดีที่สุด
ที่จะทำให้เรายังมีเพื่อนชื่อดำอยู่ได"

ผมมีเพื่อนสนิทอยู่คนหนึ่ง เป็นคนต่างจัดหวัดเหมือนดำ นิสัยตรงๆ จริงใจ คล้ายๆกัน แต่ช่วงหลังเมื่อได้คุยกับเขาทีไร ผมรู้สึกว่าเขาเปลี่ยนไปทุกทีๆ เขาเริ่มมองมิตรภาพด้อยค่ากว่าผลประโยชน์
การตัดสินใจของเขาเริ่มเข้าใกล้การตัดสินใจของสัตว์เศรษฐกิจ เข้าไปเรื่อยๆ
มันอาจจะดีกับเศรษฐกร แต่คงไม่ดีกับวิศวกรอย่างผม
แม้ว่าผมจะแย้ง หรือทำสีหน้าไม่พอใจกับการตัดสินใจของเขาหลายครั้งหลายครา ที่ผมเห็นว่าไม่ควร แต่ก็ไม่สามารถที่จะเปลี่ยนอะไรได้ ซ้ำยังทำให้ขุ่นข้องหมองใจกันอีก...

ช่วงหลังผมเพียงได้แต่เฝ้ามองการเปลี่ยนแปลงของเขาอย่างเป็นห่วงเท่านั้น

เป็นห่วง...กังวล กลัวว่าจะมาแย่งผลประโยชน์แข่งกับผมเท่านั้นเอง :-)



ชื่อจังหวัดเขียนผิดหมดเลย...
ไม่ใช่ศรีษะเกษ แต่เป็นศรีสะเกษ
ไม่ใช่กาฬสิน แต่เป็นกาฬสินธุ์
ถ้ายังเรียนมัธยมอยู่ อย่างนี้โดนคัด100จบแน่นอน


 
Creative Commons License
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-Noncommercial 3.0 Thailand License.