Sunday, March 4, 2007

ไออุ่นลาวใต้ ตอน4

บ้าน-หมอชิต

ผมเผื่อเวลาเดินทางจากบ้านไปท่ารถของนครชัยแอร์ที่อยู่ใกล้ๆหมอชิตประมาณ 2 ชั่วโมง
เพื่อความสบายใจครับ เพราะตอนซื้อตั๋วพนักงานย้ำกับผมนักหนาว่ารถออกตรงเวลา ไม่รอ
ในช่วงที่เดินทางไปท่ารถนั้น ผมรู้สึกว่าตัวเองเป็นมลพิษทางพื้นที่พอสมควร
เนื่องจากเป้ที่มีขนาดใหญ่ ผสมเจ้าของที่ขนาดใหญ่กว่าเป้พอสมควร
คลุกเคล้าด้วยความไม่ชำนาญในการสะพายเป้ใบใหญ่ขนาดนี้
ทำให้เวลาเดินทางตัวเป้มีโอกาศไปทำร้ายคนรอบข้างอยู่เสมอ แม้ว่าจะระวังอย่างยิ่งแล้วก็ตาม

ประมาณสักสองทุ่มครึ่งผมก็ถึงท่ารถ จำได้ว่ารถออกสามทุ่มครึ่ง
เหลือเวลาอีกชั่วโมงนึง...
หยิบโตเกียวไม่มีขาขึ้นมาอ่านอีกรอบรอเวลา
ในวันที่เดินทางนั้น มีรถออกไปอุบลทุกๆสิบห้านาที โดยจะมีพนักงานคอยเรียกผู้โดยสารในแต่ระรอบของเวลา
จึงทำให้ผมสามารถอ่านหนังสือได้เต็มที่ ไม่ต้องพะว้าพะวงว่าจะอ่านเพลินจนลืมดูรอบของตัวเองแล้วตกรถแต่อย่างใด
้เพราะเดี๋ยวเสียงเรียกขึ้นรถก็ลอยมาเข้าหูเราเอง
รอบสองทุ่มสี่สิบห้าครับ ขึ้นรถได้...
รอบสามทุ่มครับ ขึ้นรถได้...
รอบสามทุ่มสิบห้าครับ ขึ้นรถได้...
รอบสามทุ่มครึ่งครับ ขึ้นรถได้...
โอเค ได้เวลาลากรุงเทพแล้ว "อนาคตข้างหน้าจะเป็นอย่างไรนะ" ผมอดคิดไม่ได้
ผมลุกไปต่อแถวเตรียมเอาสัมภาระถ่ายขึ้นรถ และเตรียมตั๋วเพื่อที่จะยื่นให้พนักงาน
... O_O;
........ O_O;
............. O_O;
.................. O_O;
....................... O_O;
............................ O_O;
.
ชิบหายยยยยยยยยยยยยยยย แล้ววววววววววววววววววว
ชิบหายยยยยยยยยยยยยยยย แล้ววววววววววววววววววว โว้ยยยยยยยยยยยยย
เป็นคำสบถที่เกิดขึ้นหลังจากได้มองดูที่ตั๋วแล้วอึ้งไปชั่วขณะ
ในตั๋วเขียนรอบสามทุ่มสิบห้า แต่ผมจำผิดเป็นรอบสามทุ่มครึ่ง
แน่นอนว่ารถรอบสามทุ่มสิบห้าออกไปแล้ว
"อนาคตข้างหน้าจะเป็นเช่นไร" ผมไม่คิดแล้ว...
สมองทั้งหมดถูกโอนมาประมวลผลประโยคใหม่แทน
"ปัจจุบันกูจะทำอย่างไร"
ผมรีบเดินไปคุยกับพนักงานรับกระเป๋าทันทีว่าจะทำอย่างไรดี
ได้ความรู้ว่าไม่รู้ ให้ไปลองคุยกับคนขับรถรอบนี้ดู
ผมเดินต่อไปถามพี่คนขับรถต่อว่าจะทำอย่างไรดีครับ
ได้คำตอบว่าไม่รู้เช่นกันให้ถามพนักงานต้อนรับบนรถแทน
ToT
เดินต่อ...ไปหาพนักงานต้อนรับ
ได้ความว่ารถจะไปจอดรับผู้โดยสารที่หมอชิดอีก ถ้าไปตอนนี้อาจจะทัน
ผมรีบออกมาจากท่ารถ แค่เพียงเดินออกมาด้านหน้าก็มีมอเตอร์ไซค์รับจ้างมารออยู่แล้ว
คงจะมีคนตกรถเป็นประจำ แต่ผมเชื่อมั่นว่าตกรถแบบผมคงหายาก
พี่มอเตอร์ไซค์พาซิ่งไปถึงชานชาลาทันเวลาพอดี ผมเป็นคนสุดท้ายที่ขึ้นรถ...
หลังจากที่ได้เก็บสัมภาระและนั่งเข้าที่นั่งตัวเองแล้วนั้น ความคิดก็วิ่งผ่านมา...
"แค่เริ่มก็เสียวแล้ว"










ดวง
20070305 01:16

4 comments:

ikke said...

เฮ้ย!!!! ยังไม่ออกจากท่ารถอีกเหรอนี่ กว่าจะได้ไออุ่นจากลาวใต้นี่ อาจจะถึงวาระได้เดินทางไปเที่ยวที่ใหม่ก็ได้นะ

Odysseus said...

นั่นสิพี่... คิดอยู่เหมือนกัน

Anonymous said...

..ขำ..

ขำทั้งคอมเม้น
ขำทั้งคนเกือบตกรถ

Odysseus said...

ขอบคุณที่มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ comment "มหกรรมเรื่องยาวขำเรื่อยเปื่อย" ;-)


 
Creative Commons License
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-Noncommercial 3.0 Thailand License.