Sunday, November 11, 2007

ไออุ่นลาวใต้ ตอน 12

อุบล#7

ในเช้าที่อากาศสดใสแต่ใจหมองหม่น....
พูดอย่างไม่อายเลย แม้ว่าผมจะรู้สึกสบายใจและเป็นอิสระเพียงใด แต่การที่จะต้องเดินทางคนเดียวไปลาวที่ไม่เคยไปมาก่อนก็ทำให้ใจวิตกอยู่ไม่น้อย และยังไม่ทันเข้าลาวก็ไม่วายต้องปรับแผนอีกนิดนึงจนได้ แต่เดิมผมตั้งใจจะข้ามไปลาวด้วยรถโดยสารที่มีให้บริการอยู่ที่ขนส่งจังหวัดในรอบเจ็ดโมง แต่ ณ เวลาเจ็ดโมงที่รถออกนั้นปรากฏว่าผมก็ยังหลับไหลไม่ได้สติอยู่นั่นเอง มองไปที่สาเหตุที่ทำให้นอนตื่นสายก็เห็นแต่ความเพลิดเพลินในการเดินงานกาชาดของจังหวัดจนไม่ได้สนใจเวลา เหนื่อยกลับมาอาบน้ำนอนโดยไม่บอกราตรีสวัสดิ์เจ้าของห้องดังที่ตั้งใจไว้ตั้งแต่ตอนแรกเพราะมันยังไม่กลับ แม้จะพยายามฝืนแล้วก็ทนไม่ไหวหลับคาที่นอนมันไปทั้งอย่างนั้น ตื่นเช้ามาเราอยู่บนที่นอนดำ ส่วนดำนอนบนที่นอนที่เตรียมมาให้ (ขอโทษนะดำนะ ^^'')...

เก้าโมงครึ่งก็เก้าโมงครึ่ง ผมพูดกับตัวเองปลอบใจที่คลาดรถเที่ยวแรกไปนิดเดียว.... เอ่อหมายถึงเวลาตื่นครับที่คลาดกันไปนิดเดียว แต่คงไม่เป็นไรเพราะผมตั้งใจจะนอนปากเซคืนหนึ่งอยู่แล้ว เพื่อเก็บข้อมูลเพิ่มเติมและเดินเล่นไปเรื่อยๆในเมืองก่อนเดินทางลงใต้ไปพักที่ดอนเดช ซึ่งอย่างน้อยก็คงทำให้มีเวลาอยู่ที่นุ่นน้อยลงและข้อมูลที่ได้ก็อาจน้อยลงตามไปด้วย แต่ไม่เป็นไรยังไงก็ไปว่าเอาข้างหน้า

โดยส่วนใหญ่ข้อมูลที่ผมหามานั้น นักท่องเที่ยวจะนิยมต่อรถจากปากเซไปดอนเดชในวันนั้นเลย ซึ่งโดยส่วนตัวผมก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงทำกันอย่างนั้น ถ้าเป็นไปได้การละเมียดค่อยเป็นค่อยไปกับการเดินทางน่าจะทำให้เรารู้สึกเพลิดเพลินกว่า ไหนๆเราก็ปลีกตัวจากภาระ จากเวลาเข้างาน เลิกงานแล้ว ใยจะต้องเร่งชีวิตให้มันรีบร้อนรนกับการเที่ยวอีก

จากประสบการณ์ หลายครั้งที่ตัวผมเองจะต้องไปเที่ยวแบบ Fast Travel (คล้ายๆกับ Fast Food หน่ะครับ) กับเพื่อนๆ นอกจากจะไม่รู้สึกผ่อนคลายแล้ว เรายังโหมใช้งานร่างกายตัวเองหนักซะจนกลับมาก็แทบไม่มีแรงทำงานต่อ คิดไปคิดมาก็ไม่เข้าใจว่าจะต้องไปทรมานตัวเองกันขนาดนั้น จริงอยู่โดยส่วนตัวผมพิสมัยการท่องเที่ยวที่ต้องลุยหน่อย แต่ถ้าจะให้ต้องเดินก้มหน้างุดๆ เร่งฝีเท้าให้ทันเกับเวลาเพื่อที่จะได้ดูจุดชมวิวหรือน้ำตกหรืออะไรก็แล้วแต่ แล้วยังไม่ได้ทันสัมผัสให้สบายใจก็ต้องเปลี่ยนอริยบทมาเป็นเดินก้มหน้างุดๆเพื่อไปยังจุดต่อไปให้ทัน.... มันทำให้ผมคิดว่า เอ๊ะนี่เรากำลังแข่งแรลลี่ และหา RC อยู่หรือเปล่า?? เรามาเที่ยวไม่ใช่เหรอ!!??



โดยปกตินั้นผมไม่ค่อยได้มีโอกาสกินกาแฟตอนเช้าก่อนเริ่มทำงานเลย คงจะด้วยสาเหตุเดียวคือแค่ลำพังไปทำงานให้ทันเวลาก็ยากเต็มที เวลาที่จะมานั่งจิบกาแฟอย่างละเมียดละไมนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ แต่ในวันนี้การได้นั่งจิบกาแฟยามเช้า ดูข่าวตอนเช้า พร้อมกับมีเพื่อนสนิทคุยด้วยกันนั้น ก็เป็นความสุขใจที่ทำให้กาแฟแก้วนี้มีรสชาติดีขึ้นเยอะเลยทีเดียว

ดำจะต้องไปทำงานก่อนเวลาที่รถทัวร์จะออกพอสมควร ผมจึงเห็นว่าไม่ควรจะต้องให้ดำลำบากขับรถไปส่งที่ท่ารถ ส่วนเรื่องหารถที่จะพาผมไปที่ท่ารถนั้น ก็ไม่เป็นปัญหาสำหรับผมสักเท่าใดนักเพราะเมื่อวานก็นั่งสองแถววนไปวนมาในตัวเมืองจะพอจะคุ้นทาง คุ้นสายรถดีพอสมควร ผมจึงเลือกที่จะเดินมาส่งดำขึ้นรถไปทำงาน แล้วก็แวะเดินเล่นหาอาหารเช้ากิน

ก่อนออกจากหอดำผมตรวจดูสิ่งของที่สำคัญๆเป็นครั้งสุดท้าย โดยเฉพาะพาสปอร์ตและเงิน พร้อมๆกับหาที่ๆเหมาะสมและปลอดภัยที่สุดให้เจ้าสองสิ่งนี้อยู่ เพราะเมื่อใดที่เราทำมันหายไปตอนอยู่ที่นุ่น..... ไม่อยากจะคาดเดาถึงผลที่จะเกิดขึ้นเลย ซึ่งเมื่อทุกอย่างเรียบร้อยก็ได้เวลาออกเดินทางข้ามประเทศสักที (เข้าใจว่ารอกันมานานแล้ว ^^)

ค่าเดินทางจากขนส่งอุบลไปปากเซนั้นอยู่ที่ 200 บาทครับ โดยเวลาซื้อนั้นต้องแสดงพาสปอร์ตหรือหนังสือผ่านทางให้พนักงานขายตั๋วดูครับเพื่อยืนยันว่าเราสามารถข้ามประเทศได้

เสียงเครื่องยนต์ดัง ล้อเริ่มหมุนเพื่อย้ายกล่องเหล็กสี่เหลี่ยมที่บรรทุกชีวิตไปในทางที่เขาเลือกเดิน บางชีวิตเป็นการจากลา บางชีวิตเป็นการกลับไปพบหน้าค่าตาคนอันเป็นที่รัก บางชีวิตอุดมไปด้วยความฝันความหวังต่อสิ่งที่จะเจอข้างหน้า และบางชีวิตยังคงวิตกกังวลต่อสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้น... (เอ่อ... ผมเอง -__-'')


ดวง
20071111 21:49

 
Creative Commons License
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-Noncommercial 3.0 Thailand License.