Sunday, September 30, 2007

อยากมีหมอน

หายไปนานทีเดียวครับคราวนี้...
ที่หายไปไม่ได้แอบไปเที่ยวใหน หรือป่วยไข้แต่อย่างใด
แต่ที่ไม่ได้มีเรื่องเอามาลง ทั้งๆที่ไออุ่นลาวใต้อีกไม่กี่เดือนก็จะครบปีแต่ไปไม่ถึงลาวสักที -_-'
เป็นเพราะอยากจะเขียนเรื่องอื่นคั่นไออุ่นอีกสักตอน แต่ดันนึกอะไรไม่ออกเลย ผับผ่าสิ...

แว่บแรก..คิดว่าไม่เขียนสักอาทิตย์คงมีเรื่องอะไรให้มาเล่าสู่กันฟัง
แต่แล้ว...สองอาทิตย์ผ่านมาก็ยังไม่มีเรื่องอะไรในหัวอยู่ดี
สมองไม่แล่น?... คงไม่ใช่ เพราะหลังจากทำการหาสาเหตุของการตื่นนอนแล้วมึนไปทั้งวัน ว่าเป็นที่หมอนที่หนุนหัวตัวเองไม่ได้ระดับทำให้มีอาการเจ็บต้นคอในบางวัน ส่วนบางวันที่เหลือจะมึน โดยมีอาการคล้ายลักษณะคนเป็นดาวน์ คือไอคิวลดต่ำลงอย่างน่าใจหาย การตอบสนองช้าบวกกับหน้าตาอย่างกับคนเมาหมอนทั้งวัน(อันหลังสุดเป็นอาการของโรค Down-Pillow ที่ชัดเจนมาก)
ตอนแรกเข้าใจว่านอนไม่พอทำให้เป็นอย่างนี้ (ทั้งๆที่ก็นอนวันละเจ็ดชั่วโมงอยู่แล้ว) จึงทำการทดลองนอนเพิ่มขึ้นไปอีก
แฮ่ม...ไม่ได้เป็นคนขี้เซาแต่อย่างใด แค่ช่วงทดลองรู้สึกว่าหลังตัวเองยาวขึ้นนิดหน่อย พร้อมกับความรู้สึกอิ่มทุกครั้งที่ตื่นนอน ซึ่งลักษณะโดยรวมถือว่ามีความเหมือนเทียบเคียงกับลักษณะของนักการเมืองอย่างมากจนหน้าตกใจ ระหว่างหลังกับเขี้ยวที่ยาว และกินกับโกงบ้านโกงเมือง... เพียงแค่คิดก็รู้สึกขนลุกกับอาการของตัวเองที่ไปใกล้เคียงถึงขนาดนั้น จึงทำให้มั่นใจว่าการนอนเพิ่มขึ้นไม่ใช่ทางออกที่ดีและทางแก้ปัญหาได้...

สงสัยและคิดหาคำตอบอยู่นาน (เนื่องจากอาการของ Down-Pillow ทำให้ต้องใช้เวลานานขึ้นไปอีก) กว่าจะมาเคลือบแคลงสหายใกล้ตัวและแนบหัวอย่างหมอนสองใบ... แต่ทำไมต้องสองใบ? หลายคนอาจสงสัยจนเครื่องหมายคำถามกระแทกจอคอมพิวเตอร์ดังปั่กๆๆๆ จึงจะรีบวิสัจฉนาในทันใดว่าเพียงแค่แต่ละใบก็ล้วนแต่เก่าใช้เก่าเก็บจนแบน ซึ่งถ้าเอามานอนแบบเดี่ยวๆก็จะทำให้ดูหยิ่งเหนือฐานะไป เพราะจะดูเชิดตลอดเวลาที่นอน จึงรู้สึกว่าไม่ควรที่จะเชิดไปทั้งหัวขนาดนั้นถ้าเราไม่มีอะไรไปอวดเขาได้ ซึ่งแน่หล่ะ...จะไปมีอะไรไปอวด? ดังนั้นจึงจำต้องหาหมอนมาอีกใบเพื่อช่วยกันเกื้อหนุนให้หัวโค้งนิดๆอย่างสำรวม

แต่...อนิจจา ความพอดีไม่ใช่จะมากันง่ายๆดังที่ต้องการดอก
สองแรงแข็งขันหนุนกันสูงเกินไปจนทำให้เกิดโรค Down-Pillow ขึ้นมาตามที่ได้เรียนไปตั้งแต่ต้น แล้วไอ้ที่ Down เนี่ยก็ไม่ใช่ Pillow เสียด้วยสิ แต่เป็นสติ ปัญญาและสมาธิ ของผู้ที่แนบชิด Pillow แทน ไม่รู้ว่ากรณีอย่างนี้จะไปร้อง สคบ ได้หรือไม่? แต่ช่างมันเถอะ จะได้ถือว่าเป็นค่าโง่และอินเทรนด์เกาะตามกระแสเค้าไปด้วย

หลังจากพอคาดเดาสาเหตุได้แล้ว ก็ทำการบึ่งรถโดยสารสาธารณะ ไปซื้อหมอนใบใหม่พร้อมกับทำธุระแถวๆห้างไปด้วยเลย แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าหมอนใบใหม่ใช้แล้วจะถูกใจจนร้องโอเคเสียงดังๆเหมือนโฆษณาฮอลล์ได้? อันนี้เรียนตามตรงว่าตัวเองก็ไม่ได้จบมาทางด้านสรีระกบาลคน จึงจนปัญญาที่จะสามารถเลือกซื้อหมอนให้ตรงตามหลักวิชาการได้ แล้วจะทำอย่างไรหล่ะทีนี้? จะให้กลับบ้านมือเปล่าแล้วไปนอนพร้อมกับอมฮอลล์ไปด้วยเพื่อที่จะได้ร้องโอเคๆเสียงดังๆ ก็ดูน่ากลัวว่าจะฟันผุแทน ในขณะที่กำลังประมวลผลคิดคำนวนอย่างหนักหน่วงนั้น ก็หันไปเห็นเตียง ใช่สิ! วิธีการทดสอบใดเล่าจะดีเทียบเท่าการใช้จริงได้ ฮ่าๆๆ
.
..
...
....
.....
......
.......
เสียใจด้วยสำหรับคนที่จินตนาการไปล่วงหน้าแล้ว ว่าผมจะไปนอนบนเตียงพร้อมกับวัตถุทดลองกลางห้าง...
ใครบ้าที่ใหนจะไปทำ... หมอนมีต้องหลายยี่ห้อหลายแบบ ขืนผมทำจริงผมต้องนอนประมาณสัปดาห์กว่าๆ มันนานเกินไปครับ ผมไม่มีเวลาว่างขนาดนั้น

ผมก็แค่เลือกที่รูปทรงมันน่าจะรับกับหัวได้ และเอาที่เป็นใยสังเคราะห์จะได้ไม่มีฝุ่นที่เป็นบ่อเกิดของโรคหอบและเคหะสถานของตัวไรฝุ่น และที่สำคัญหมอนที่ผมเลือกมีรูปผู้หญิงนอนยิ้มอย่างมีความสุขจนทำให้เกิดความอิจฉาอยากเป็นอยากมีบ้าง ซึ่งเป็นธรรมดาสำหรับปุถุชนมนุษย์ที่ไม่ได้บรรลุอะไรทั้งสิ้นอย่างผม สำหรับความอยากมีอยากเป็น

หลังจากเลือกได้ก็บึ่งรถโดยสารสาธารณะกลับมาที่บ้านด้วยใจอยากทดลองหมอนใหม่ ซึ่งในเวลาเดียวกันจำต้องสวมวิญญาณเพชรฆาตทอดทิ้งสหายเก่าทิ้งไป ดั่งคนอกตัญญูไม่เห็นบุญคุณกัน ทั้งๆที่หนุนส่งมาตั้งนมนาน...

ผลการทดลอง... อาการ Down-Pillow หายไปอย่างอย่างไม่เคยรู้สึกมาก่อน (ขอสารภาพว่าดีใจจนลืมร้องโอเคๆไป) มีชิวิตกลับมาทำงานสมเงินเดือนได้อีกครั้ง แต่สมโอทีหรือไม่นี่ยังไม่แน่ใจ... และทรมานเพื่อนๆน้องๆที่ร่วมงานด้วยไอเดียที่บรรเจิดขึ้นมาอย่างไม่ได้ตั้งใจ จนทำให้เหนื่อยไปตามๆกัน (ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย)

และนี่คือเรื่องคั่นอย่างหาสาระไม่ค่อยได้ และเล่ามาด้วยความทะลึ่งบ้องของการใช้คำและโครงสร้างที่มั่วขึ้นมาเรื่อยๆตามแต่ใจผู้เขียน จึงไม่เหมาะแก่บุตรของนักภาษาศาสตร์หรือครูภาษาไทยแต่อย่างใด เพราะถ้าเกิดการลอกเลียนแบบคำไปใช้จะทำให้พ่อแม่ท่านเศร้าใจได้ แต่เพียงแค่หวังว่าจะบันเทิงเริงรมย์และมีรอยยิ้มพิมพ์กันบนหน้ากันตามอัตภาพ
ขอขอบคุณที่ติดตามกันจนจบ...



ดวง
20070930 23:44

Sunday, September 2, 2007

แหม...ทำไปได้

คนใส่ชุดนักศึกษารัดรูป ก็เห็นกันเกลื่อนเมือง
คนใส่เสื้อเชิ้ตรัดรูป ก็งั้นๆ พบเห็นได้ทั่วไป
แต่ๆ....
อุ๊แม่เจ้า....
ผมเจอๆๆๆ....
....
....
นักศึกษาวิศวะใส่เสื้อช็อปรัดรูป!!??!!
แหม...มันทำไปได้


ดวง
20070902 23:05

 
Creative Commons License
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-Noncommercial 3.0 Thailand License.